ปรีชา หงษ์ไกรเลิศ. การพัฒนาระบบพรรคการเมืองเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย. เอกสารวิจัยส่วนบุคคล วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, 2533.
ใน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ปี 2540 ระบุเหตุผลของการมีกฎหมายนี้ไว้ว่า “ในระบอบประชาธิปไตย การให้ประชาชนมีโอกาสกว้างขวางในการได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการต่าง ๆ ของรัฐเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดยถูกต้องกับความเป็นจริง อันเป็นการส่งเสริมให้มีความเป็นรัฐบาลโดยประชาชนมากยิ่งขึ้น สมควรกำหนดให้ประชาชนมีสิทธิได้รู้ข้อมูลข่าวสารของราชการ…” นอกจากแกนนำราษฎรชุดนี้ ยังมีแนวร่วมราษฎรตกเป็นผู้ต้องหา/จำเลย คดี 112 และต้องสูญเสียอิสรภาพในระหว่างการต่อสู้คดี ซ้ำบางส่วนยังกลายเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำ โดยปรากฏชื่อนายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือที่รู้จักในนาม “จัสติน” ผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นผู้ป่วยยืนยันรายแรกตามการเปิดเผยของกรมราชทัณฑ์เมื่อ 24 เม.ย. ผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชนแสดงความกังวลต่อความล่าช้าอย่างมากในการทบทวนข้อร้องเรียนจากผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติ ตลอดจนการขาดความตระหนักในหมู่ประชาชนและภายในสำนักงานประจำจังหวัดของกระทรวง พม. ผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชนแสดงความกังวลต่อความล่าช้าในการทบทวนข้อร้องเรียนจากผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติ ตลอดจนการขาดความตระหนักในหมู่ประชาชนและภายในสำนักงานประจำจังหวัดของ พม. ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่าแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) 5 คน สิ้นสภาพการเป็น ส.ส. ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ฉบับใหม่ กลับแจกแจงเหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามกฎหมายนี้ไว้ว่า “เพื่อกำหนดมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลเกี่วกับความมั่นคงของรัฐ หรือเป็นความลับของทางราชการ และข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล…”
ความรู้สึกเมินห่างทางการเมืองกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองในกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ภาควิชาปกครอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2528. วรเจตน์ ภาคีรัตน์ (ซ้าย) กับ รศ.ดร. ฉลอง สุนทราวาณิชย์ วิจารณ์การผลักดันร่างกฎหมายข้อมูลข่าวสารฯ ฉบับใหม่ของรัฐบาล ในเวทีเสวนา “เสรีภาพทางวิชาการในสภาวะถดถอย” ที่ มธ.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เดินทางมาประชุม ครม. นัดสุดท้ายของปี 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ครั้งแรก ซักฟอกนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 10 คน ระหว่างวันที่ ก.พ. ครั้งที่สอง ซักฟอกนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 6 คน ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย. กลุ่มที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.
วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๓.๐๐ น.